วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560



ศัพท์รุ่น

   สมัยนี้วัยรุ่นเอาแต่สรรหาคำศัพท์ใหม่ๆมาทำเอาผู้ใหญ่หลายคนถึงกับงงกันเป็นไก่ตาแตก หลายคนก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ศัพท์วัยรุ่นทำให้มีเสียงเรื่องความเหมาะสมในการใช้ภาษาไทยกันอย่างมากมาย แต่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

1.เผือก

เผือก=ยุ่งเรื่องชาวบ้าน

2.หลัว

หลัว=สามี

3.นาจา

นาจา = นะจ๊ะ

4.สายเปย์

สายเปย์ = ชอบจ่ายให้

5.ลั่น

ลั่น = ขำดัง

6.มองบน

มองบน = ระอาใจ ไม่พอใจ

7.งานดี หรือ งานละเอียด

งานดี หรือ งานละเอียด = ดีมาก

8.คือร่ะ

คือร่ะ = คืออะไร

9.ยิ้มอ่อน

ยิ้มอ่อน = ยิ้มน้อย ๆ แบบเอ็นดู

10.ยิ้มแรง

ยิ้มแรง = ยิ้มกว้างเต็มที่ แบบดีใจ ไม่ปกปิด

11.อิจ


อิจ = อิจฉา

12.สะใภ้มโน

สะใภ้มโน = สาวๆ ที่คิดอยากเป็นแฟนหรือเป็นสะใภ้บ้านหนุ่มหล่อ

13.มองแรง

มองแรง = มองแบบจิก ๆ เขม้นมอง

14.เก้ว

เก้ว = เท หรือ หนี

15.ตุ้บ

ตุ้บ = หวังอะไรแล้วไม่ได้ แบบผิดหวัง

16.โป๊ะ หรือ บ้ง

โป๊ะ หรือ บ้ง = หน้าแตก

17.ห่าน

ห่าน = คำหยาบ (animal)

18.สึด

สึด = คำหยาบ (animal)

19.ยิ้ม

ยิ้ม = นัดไปยิ้ม (มีเพศสัมพันธ์)

20.ตํา

ตํา = ตาม เช่น ต้องไปซื้อตามบ้าง พูดสั่นๆ แบบวัยรุ่นก็คือ ต้องไปตำบ้าง

21.แม่ก็คือแม่

แม่ก็คือแม่ = ตัวแม่ ตัวท็อป ทำอะไรก็ดีไปหมด

22.ลำไย

ลำไย = เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มรำคาญในความเรื่องเยอะ หรือคนที่ทำอะไรยืดยาด ช้า สรุปแล้ว ลำไย คือคำจิกกัดคนที่ทำตัวเชื่องช้าได้น่ารำคาญ

23.กล้วย

กล้วย = ง่าย

24.เงาะ

เงาะ = งง

25.แตงโม

แตงโม = อ้วน

26.ส้ม

ส้ม = ยุ่งเรื่องคนอื่น

27.มะม่วง

มะม่วง = โง่

28.ละมุด

ละมุด = เนียน

29.เชอร์รี่

เชอร์รี่ = กะหรี่

30.อ้อย

อ้อย = แรด,อ่อย

31.มะนาว

มะนาว = มโน

32.เท

เท = โดนทิ้ง

33.นก

นก = อ่อยเขาแต่เขาไม่เอา

34.สะเด้ย

สะเด้ย = คำหยาบ (animal เอ้ย )




ในการใช้ศัพท์วัยรุ่นควรพิจารณาถึงเวลา สถาณที่ ความเหมาะสมและกาลเทศะ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและไม่พอใจกัน



























































US Army Ranger

ภารกิจ ปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ทางการเมือง และนโยบายของสหรัฐ

ทหารหน่วยนี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และปลดประจำการไปหลัง สงครามเกาหลี แต่ก็กลับมาปฏิบัติการอีกครั้งในสงครามเวียดนาม ภารกิจของแรงเยอร์ คือการปฏิบัติภารกิจของกองทัพตามวัตถุประสงค์ทางการเมือง และนโยบายของสหรัฐฯ ในยามสงครามแรงเยอร์มีหน้าที่ลาดตระเวนในเขตยึดครองของศัตรู ทำงานร่วมกับทหารหน่วยอื่นๆ ในการโจมตีหรือลอบโจมตีเป้าหมายสำคัญหลังแนวข้าศึกทั้ง ทางภาคพื้นดิน ทางน้ำ หรือโดยการโดดร่ม ส่วนในสถานการณ์รุนแรงอื่นๆ แรงเยอร์จะทำหน้าที่ต่อต้านปฏิบัติการของกองโจรและผู้ก่อ การร้าย ช่วยเหลือ ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอเมริกัน ทหารหน่วยแรงเยอร์นั้นต้องเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติการได้ทุกแห่งในโลก ในทุกสภาพ ภูมิอากาศและภูมิประเทศ ทั้งกลางวันและกลางคืน

Ranger คือหัวหอกของทหารราบเป็นหน่วยที่สังกัดอยู่ในกองทัพบกพวกเขาคือทหารราบเบาที่พิเศษกว่าทหารราบเบาปกติยังไม่ถึงขั้นหน่วยรบพิเศษอย่างDelta force หรือSEALแต่เหนือกว่าMarine(นาวิกโยธิน ทัพเรือ)ออกแบบมาให้เป็นShock troops พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกมุมโลกภายใน18ชั่วโมง ส่วนมากจะเป็นภารกิจปฏิบัติการณ์พิเศษ สเกลขนาดกลาง ภารกิจที่ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆหรือภารกิจที่ส่งหน่วยรบพิเศษไป7-8คนไม่เพียงพอ




การฝึกออกแบบมาเพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับการต่อสู้ในสภาพที่ย่ำแย่ที่สุด เช่น กินอาหารมื้อเดียวต่อวัน นอนแค่3ชั่วโมงและเมื่ออาสาสมัครเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะตายก่อนไหม นั้นแหละถึงจะเริ่มการฝึกแบบจริงจังในสภาพครึ่งผีครึ่งคนตลอด9สัปดาห์โดยจะฝึกหลักสูตรS.O.C.P.หลักสูตรรบประชิดที่ตั้งอยู่ในหลักการว่าสร้างระยะห่างและยิงด้วยปืนหลักสูตรโจมตีอันนี้มีผู้ผ่านแค่25%ของอาสาสมัครทั้งหมดแต่หลักสูตรนี้ก็ยังไม่เทียบเท่ากับหลักสูตรทำลายใต้น้ำ หรือมนุษย์กบ (SEAL)





ในช่วง60ปีมานี่Rangerได้ไปทุกที่ที่สหรัฐไปแทบจะเรียกได้ว่าเป็นหน่วยรบที่ออกปฏิบัติการณ์บ่อยที่สุดในโลกเนื่องจากการที่พวกเขาถูกฝึกให้เป็นหน่วยกันชนปะทะกับข้าศึกเป็นหน่วยแรก ทำให้พวกเขาต้องนำหน้าอยู่เสมอ

แต่ก็ไม่มีใครอยากไปทำสงครามกับใครทั้งนั้น

ไม่มีใครอยากใช้ชีวิตอยู่หลังลำกล้องปืน

ไม่มีใครอยากจากบ้านจากคนที่รักเพื่อไปทำสงคราม

ไม่มีใครอยากมานั่งกังวลว่าถ้าเขาตายไปคนที่อยู่ข้างหลังจะเป็นอยู่อย่างไร

ไม่มีใครอยากมานั่งกลัวว่าซักวันหนึ่งเพื่อนของเขาจะตายในสนามรบ

ไม่มีใครอยากจะฆ่าคนอื่นหรอกเพราะมือที่เปื้อนเลือดไปแล้วมันล้างออกไม่ได้มันยังคงเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
เชื่อผมเถอะไม่มีใครอยากหรอก...พวกเขาทำได้เพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดและขอให้โลกนี้ไม่มีสงครามอีก พวกเขาไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยอีกครั้ง

Rangerในสงครามต่างๆ

สงคราม1812

ในเดือนมกราคม1812สหรัฐอเมริกาได้รับอนุญาตให้หน่วยRangerไปป้องกันชายแดนตะวันตกในรัฐโอไฮโอง,Indiana,รัฐอิลลินอยส์และเคนตั๊กกี้และถอนกำลังเมื่อมิถุนายน1815

สงครามกลางเมืองอเมริกา

เป็นสงครามที่Rangerมีบทบาทมากที่สุดต่อสู้เพื่อพันธมิตรเป็นหน่วยที่โจมตีสำเร็จมากที่สุดในขณะนั้นโดยการนำของจอห์นซีเนียร์มอสบี้
และยังได้เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่2,สงครามเวียดนามและสงครามเกาหลี













DOTA  TECHIES


โจมตีระยะไกล - ตัวนูค - ตัวหยุด

สกิล

Proximity Mines




ระเบิดจะล่งหนแต่ถ้ามีศัตรูในรัศมีระเบิดมันจะระเบิดภายใน1.75วินาทีแต่ช่วงนั้นมันจะหายจากล่องหน การระเบิดจะสร้างความเสียหายเต็มแก่ศัตรูในรัศมีและสร้างความเสียหาย25%แก่สิ่งก่อสร้าง
translateประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย
ประเภทความเสียหาย: เวทมนตร์ 
ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์: ได้ 
รัศมี: 400 
ความเสียหาย: 225 / 400 / 575 / 750 
ความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้าง: 25% 
ดีเลย์การเริ่มทำงาน: 1.75
มานาที่ใช้: 110/130/150/170
คูลดาวน์: 12

Stasis Trap

วางกับดักล่องหนที่จะทำให้ยูนิตศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงติดรากทันทีเมื่อกับดักทำงาน
ประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย 
ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์: ไม่ได้ 
รัศมีที่ทำงาน: 400 
รัศมีติดราก: 600 
ระยะเวลาติดราก: 2 / 3 / 4 / 5 
เวลาในการล่องหนของกับดัก: 2
มานาที่ใช้: 80/110/140/160
คูลดาวน์: 20/16/13/10

Blast Off!

Techies พุ่งตัวของพวกเขาเข้าไปท่ามกลางศัตรู ชาร์จแล้วพุ่งเข้าไประเบิด สร้างความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ในพื้นที่และใบ้ศัตรู เมื่อลงถึงพื้นที่เป้าหมาย การระเบิดจะสร้างความเสียหายต่อ Techies เท่ากับ 50% ของพลังชีวิตสูงสุดของพวกเขา 
ประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย 
ส่งผลต่อ: ศัตรู 
ประเภทความเสียหาย: เวทมนตร์ 
ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์: ไม่ได้ 
รัศมี: 400 
ระยะเวลาใบ้: 4 / 5 / 6 / 7
ความเสียหายต่อตนเองจากพลังชีวิตสูงสุด: 50%
มานาที่ใช้: 100/125/150/175 
คูลดาวน์คูลดาวน์: 35

Focused Detonate

ระเบิด Remote Mine ทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย
ประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย 
ประเภทความเสียหาย: เวทมนตร์ 
รัศมี: 700
คูลดาวน์: 1


Minefield Sign

ตั้งป้ายเตือนให้ศัตรูระวังและก้าวเบา ๆ เป็นระยะเวลา 180 วินาที สามารถตั้งได้เพียงหนึ่งป้ายในแต่ละครั้งเท่านั้น อัปเกรดได้ด้วย Aghanim's Scepter
ประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย 
ประเภทความเสียหาย: DOTA_TOOLTIP_DAMAGE_NONE 
ระยะเวลาป้าย: 180
คูลดาวน์: 360

Remote Mines

วางระเบิดล่องหนที่จะระเบิดหลังจากดีเลย์สั้น ๆ เมื่อถูกจุดชนวนเท่านั้น ไม่สร้างความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้าง อัปเกรดได้ด้วย Aghanim's Scepter
ประเภทสกิล: ตำแหน่งเป้าหมาย 
ประเภทความเสียหาย: เวทมนตร์ 
ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์: ไม่ได้ 
ความเสียหาย: 300 / 450 / 600 
รัศมีการระเบิด: 425 
ระยะเวลากับระเบิด: 600
ดีเลย์การล่องหน:2
ระยะร่าย: 500
ความเสียหายโดย SCEPTER: 450 / 600 / 750 
ระยะร่ายโดย SCEPTER: 700
มานาที่ใช้: 200/240/300 
คูลดาวน์คูลดาวน์: 10

ชุด



มีเพียงarcana

Taunt


ประวัติ

ในเรื่องเล่าของตำนานการผจญภัยแห่งเมืองริมอ่าว Dredger's Bight คงไม่มีเรื่องใดที่น่าอัปยศเกินกว่าหายนะทำลายล้างของเรื่อง Techies Demolitions อีกแล้ว และอีกครั้งที่เป็นเหตุให้ Dredger's Bight ไร้การมีอยู่จากนั้นเป็นต้นมา รวมถึงเมือง Toterin และ Trapper Town ก็เช่นกัน ความจริงแล้วหากมีใครสักคนขุดคุ้ยติดตามความจริงของเรื่องราวของ Techies Demolitions นี้ละก็ พวกเขาคงค้นพบว่าเพียงเวลาสั้น ๆ ที่พบการปรากฏตัวของเจ้าพวก Techies ขึ้นมาที่ใด เมืองแถบนั้นมักจะอันตรธานหายไปเช่นกัน ราวกับว่าหายนะทุกอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จะรายล้อมอยู่รอบตัวพวก Techies การหายไปของเมือง Dredger's Bight นั้นมีที่มาเริ่มต้นจากการประดิษฐ์บางสิ่ง จากการที่ได้รับมอบหมายงานให้ออกแบบวิธีการจุดระเบิดเหมืองที่อยู่ใต้เมืองให้ปลอดภัยขึ้น สามสหายอัจฉริยะผู้เชี่ยวชาญเพลิง Squee Spleen และ Spoon ได้พัฒนาสร้างสิ่งประดิษฐ์อันแสนพิกลที่สุดของพวกเขา คือปุ่มกดที่เมื่อกดลงไปแล้ว จะจุดชนวนอุปกรณ์จากระยะไกลได้ ด้วยความกระตือรือร้นที่อยากทดสอบสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาเต็มแก่ สามเกลอแข็งขันกันเติมผงดินระเบิดลงในถังแล้วถังเล่า ในห้องทดลองเล็ก ๆ ของพวกเขาเต็มไปด้วยระเบิดควบคุมระยะไกลที่เพิ่งพัฒนาใหม่ของพวกเขาสุมเป็นกองอยู่ทั่วทุกมุมห้อง พวกเขาลากระเบิดทั้งหมดออกไปในทีเดียวจากในคลังอาวุธของพวกเขา แล้วนำไปฝังไว้ในที่ไกล ๆ ในขณะที่พวกเขาต่างหมอบหลบอยู่ในหลุม Spleen ก็กดปุ่มจุดชนวน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเวลานั้น ด้วยความฉงนใจ เขาจึงยืนขึ้นแล้วกดปุ่มย้ำอีกครั้งและอีกครั้งจนกระทั่ง เกิดระเบิดรุนแรงจนฉีกกระชากเป็นหลุมในสนาม หลังจากนั้น Squee และ Spleen เจอแรงมหาศาลของคลื่นเสียงกระแทกพวกเขาปลิวจนลอยกลับมาถึงบ้าน ด้วยความงุนงง หูของพวกเขายังคงอื้อก้องไปหมดจากแรงระเบิดที่คาดไม่ถึง พวกเขาสองคนรวมตัวกันในหมอกไอพิษสกปรกและพบว่าควันโขมงลอยอยู่เหนือที่ที่เคยเป็นที่ตั้งห้องทดลองของพวกเขา เศษไม้และหินยังคงค่อย ๆ ร่วงกราวลงในขณะที่หลุมจากแรงระเบิดที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาค่อย ๆ ขยายลึกลงไปอย่างช้า ๆ จนเป็นหลุมกว้างขึ้นมา เมือง Dredger's Bight ทั้งเมืองสั่นไหว และค่อย ๆ เลื่อนไหลจมลงไปในเหมืองที่อยู่ข้างใต้ โดยที่ชาวเมืองต่างก็หนีตายอย่างโกลาหล ขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ที่ขอบหลุมตรงที่ที่บ้านของพวกเขาจมลงไป พวกเขายิ้มเยาะและหัวเราะคิกคักกัน ที่สะเพร่าเลินเล่อในความเป็นไปได้ เมื่อพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงเสียงก่นด่าของเหล่าเพื่อนบ้านของพวกเขาเลย พวกเขามีเพียงสิ่งเดียวที่สงสัยอยากรู้ว่า พวกเขาจะจุดระเบิดให้รุนแรงยิ่งกว่านี้ได้ยังไงนะ?

จากใจคนที่เล่นtechiesในmmr






















แนะนำตัว

ชื่อ:ด.ช.นัทธพงศ์ คงแสงไชย
ชื่อเล่น:อ้วน(แต่ตัวจริงไม่อ้วนน่ะ)
วันเกิด:14 มิถุนายน พ.ศ.2545
สถานที่ศึกษา:โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี
facebook:Goodgame Well Played
steam:Why not me(ใครอยากเล่นเกมด้วยแอดมาเลย)


        Hi บล็อคนี้หาสาระที่ออกสอบไม่เจอน่ะครับแต่มีไว้เพื่อให้ความรู้นอกตำราต่างๆและเกม(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกม)โดยให้คุณอยู่กับบล็อคนี้ให้น้อยที่สุดแต่ได้ในสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดเพราะผมได้เขียนย่อฉบับที่คนเมายังอ่านเข้าใจ แล้วถ้าผมเขียนผิดประการใด้ก็ติชมมาได้เต็มที่ แลกเปลื่ยนความคิดกันให้เต็มอิ่มแล้วก็สุดท้ายอย่าลืมน่ะครับ
"ใช้เวลากับบล็อคนี้ให้น้อยที่สุดแต่ได้ในสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด"

Good luck and Good bye